ครบรอบ 3 ปี สำหรับเกมในความทรงจำของทีมชาติไทย ชุด u-23 ที่สามารถไล่ถล่มบาห์เรนไปแบบขาดลอย 5-0 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2020 ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ลองมาย้อนดูกันครับว่า 11 ผู้เล่นตัวจริงในวันนั้น ปัจจุบันเป็นอย่างไรกันบ้าง
ผู้รักษาประตู – กรพัฒน์ นารีจันทร์
ปัจจุบันอยู่กับโปลิศ เทโร เป็นนายด่านมือ 2 ของทีม (ถูกยืมตัวมาจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
คู่เซ็นเตอร์ – ศฤงคาร พรหมสุภะ กับ ชินภัทร ลีเอาะ

ชินภัทร ผู้ที่เป็นกัปตันทีมของทีมชุดนั้นปัจจุบันอยู่กับเชียงราย ยูไนเต็ด โดยหลุดเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเป็นตัวจริงมาโดยตลอด
ศฤงคาร ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับสุโขทัย พร้อมทำหน้าที่เป็นกำลังหลักในแนวรับ
แบ็คขวา/ซ้าย – มีโชค มหาศรานุกูล กับ ทิตาธร อักษรศรี
มีโชค ปัจจุบันอยู่กับทีมน้องใหม่ไทยลีก 1 อย่าง ลำปาง แต่ทว่าได้ลงสนามเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น
ปัจจุบันอยู่กับการท่าเรือ มีบ้างช่วงได้ลงเป็นตัวจริง แต่พอ เควิน ดีรมรัมย์ กลับมาก็ตกเป็นสำรอง แต่ยังได้ลงบ้าง

คู่กองกลาง – สรวิทย์ พานทอง กับ กฤษดา กาแมน
สรวิทย์ ปัจจุบันอยู่กับโปลิศ เทโร (ยืมตัวจากเมืองทอง ยูไนเต็ด) ลงเล่นเป็นกำลังหลักของทีมอย่างต่อเนื่อง
กฤษดา ปัจจุบันอยู่กับชลบุรี เป็นหัวใจหลักของทีมชนิดที่ขาดไม่ได้ และก้าวไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว
3 แนวรุก – อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ , สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

อานนท์ ปัจจุบันอยู่กับราชบุรี (ยืมตัวจากแบงค็อก ยูไนเต็ด) หายไปเลยจากอาการบาดเจ็บ และกำลังจะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง เพื่อกลับไปสู่ฟอร์มที่ดีอีกครั้ง
สุภโชค ปัจจุบันอยู่กับฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซับโปโร เป็นกำลังหลักให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ และกำลังจะพิสูจน์เป็นตัวจริงให้กับทีมในเจลีก
ศุภณัฏฐ์ ปัจจุบันอยู่กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นกำลังหลักของทีมปราสาทสายฟ้า และเป็นวันเดอร์คิดของวงการฟุตบอลไทยที่มีโอกาสไปไกลถึงลีกยุโรปในอนาคต

หน้าเป้า – ศุภชัย ใจเด็ด
ศุภชัย ปัจจุบันอยู่กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำเป็นดาวซัลโวของทีม และกำลังขับเคี่ยวกับบรรดาแข้งต่างชาติในการคว้าดาวซัลโวไทยลีก ประจำฤดูกาล 2022-23